ลักษณะของโรค
โรคผิวหนังอักเสบ (อาจรวมไปถึงอาการอีสุกอีใส และงูสวัดด้วย) เป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันทางร่างกายผิดปกติ เป็นมากในสตรีที่มีอายุระหว่าง 30-40 ปี เมื่อเชื้่อเข้าสู่ร่างกาย ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ช่วยในการเคลื่อนไหวต่างๆ รวมถึงเซลล์ผิวหนัง และกล้ามเนื้อก็จะถูกทำลาย ทำให้เกิดอาการอักเสบไปทั่วร่างกาย อาจมีความรู้สึกไม่มีแรงที่แขน และร่างกายอ่อนเพลีย โดยอาการเตือนขั้นสุดท้าย คือ อาการไอแห้ง ซึ่งเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ และผิวหนังกระจายไปยังปอด และส่วนอื่น ๆ ของร่างกายอย่างรวดเร็ว
ผิวหนังอักเสบ เป็นหนึ่งในโรคแพ้ภูมิตัวเอง ซึ่งมีหลายประเภท ที่ได้ยินบ่อยๆ คือ SLE หรือ โรคพุ่มพวง ส่วนสาเหตุการเกิดโรคนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีการสันนิษฐานว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัส เมื่อใดที่เกิดโรค กลไกลของร่างกายจะเกิดการป้องกันตนเอง และเมื่อเกิดความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จะทำให้กล้ามเนื้อ และผิวหนังผิดปกติ ลักษณะที่สังเกตุได้ชัดเจนคือ จะมีตุ่ม และผื่นสีม่วงแดงบริเวณข้อนิ้วมือ ซึ่งงถ้าเป็นผื่นแพ้ที่ผิวหนังโดยทั่วไป เช่น ผื่นจากการแพ้น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือแพ้ผงซักฟอก อาจจะมีอาการผิวแห้งแตก มีอาการคัน และเจ็บแสบ แต่คนที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบส่วนใหญ่ จะเป็นผื่นที่ไม่มีอาการคัน หรือเจ็บ และมีอาการไอรุนแรงจนทำให้ปอดอักเสบ รวมไปถึงอาการผิดปกติของหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ กล้ามเนื้อหัวใจโต หรือมีลักษณะของกล้ามเนื้อหัวใจตาย
วิธีการรักษา
หากอาการไม่รุนแรง สามารถรักษาได้โดยทายาที่มีส่วนผสมของ สารสเตียรอยด์ แต่ในกรณีที่เป็นมาก จะต้องรับประทานยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือเคมีบำบัดร่วมด้วย อาหารเสริม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงสารสเตียรอยด์
อาการและกลุ่มเสี่ยง
ความเสี่ยงโรคผิวหนังอักเสบ อยู่ในทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ ในผู้ใหญ่จะพบได้ในคนอายุตั้งแต่ 50-60 ปีขึ้นไป และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 2 เท่า อาการที่พึงระวังนั้น ให้สังเกตุอาการมือแห้งสาก แต่ไม่มีอาการคัน รู้สึกว่าแขน และร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง และมีอาการไอแห้งอย่างรุนแรงเรื้อรังติดต่อกันเป็นเวลานาน
ประสบการณ์ผู้ใช้ผลงานวิจัย APCO
ผู้มีปัญหาผื่นแพ้คัน
ผู้มีปัญหาภูมิแพ้ และผื่นลมพิษ
*สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่ท่านสนใจได้ที่ 089-214-8611 และ Line: bim100pan*